วิตามินซี เป็นหนึ่งในวิตามินที่จำเป็นต่อร่างกายของเรา ซึ่งเราสามารถหาวิตามินซีได้จากผักผลไม้ทั่วไป และจากรูปแบบอาหารเสริม ในบทความนี้เราเลยจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ ประโยชน์ของวิตามินซี ที่เป็นมากกว่าวิตามินป้องกันหวัดกันค่ะ ตาม vadroob ไปดูกันเลยค่า
วิตามินซี คือ?
วิตามินซี (Vitamin C) หรือกรดแอสคอร์บิก (ascorbic acid) เป็นวิตามินชนิดละลายในน้ำที่ร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นเองได้ เป็นวิตามินจำเป็นที่มีความสำคัญกับร่างกายเป็นอย่างมากในกระบวนการทำงานต่าง ๆของร่างกาย จำเป็นต้องได้รับวิตามินชนิดนี้จากการรับประทาน ซึ่งจะพบในผักผลไม้ โดยเฉพาะกับผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว และอาหารเสริมต่าง ๆ

ประโยชน์ของวิตามินซี
ประโยชน์ของวิตามินซี มีมากมาย ดังนี้
1. ช่วยให้ผิวสวย ดูอ่อนเยาว์ วิตามินซีมีส่วนช่วยในการต้านสารอนุมูลอิสระ ชะลอการเกิดริ้วรอยก่อนวัย ทำให้ผิวดูอ่อนเยาว์ มีความเปล่งปลั่งยิ่งขึ้น
2. ช่วยทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น วิตามินซีมีฤทธิ์เป็นยาระบาย แก้ปัญหาท้องผูก และช่วยให้ระบบขับถ่ายทำงานได้ดียิ่งขึ้น
3. ช่วยลดความเสี่ยงโรคมะเร็ง วิตามินซีมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ทำหน้าที่ยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์ที่ผิดปกติ และขจัดสิ่งแปลกปลอมในร่างกายออกไป
4. ช่วยป้องกันหวัด และช่วยบรรเทาอาการหวัด ภูมิแพ้ และหอบหืด วิตามินซีช่วยป้องกันการติดเชื้อไวรัสและแบคทีเรีย ช่วยลดอาการไข้หวัดได้ ต่อต้านเชื้อไวรัสต่าง ๆ และมีสารต่อต้านภูมิแพ้ชนิดต่าง ๆ และยังชช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย
5. ช่วยดูแลการทำงานของหัวใจ วิตามินซีช่วยควบคุมระดับคอเลสเตอรอล ช่วยสลายไขมัน ลดการเกิดเส้นเลือดอุดตันได้เป็นอย่างดี และช่วยลดความดันโลหิตได้ดี
6. ช่วยให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า และมีชีวิตชีวามากขึ้น
7. ช่วยทำให้เหงือกแข็งแรง วิตามินซีจะช่วยบำรุงเหงือกและฟันให้แข็งแรง ช่วยรักษาเซลล์เหงือกที่ถูกทำลาย ทำให้แผลที่เหงือกหายเร็วขึ้น ช่วยป้องกันโรคลักปิดลักเปิด และปัญหาเลือดออกตามไรฟันได้เป็นอย่างดี
8. ช่วยเพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก วิตามินซีทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี
9. ช่วยทำให้แผลหายเร็ว วิตามินซีจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมและเสริมสร้างผนังเซลล์ของหลอดเลือดให้มีความแข็งแรง และช่วยต้านการอักเสบ จึงทำให้แผลหายเร็ว
10. ช่วยเสริมสร้างความจำ วิตามินซีมีส่วนช่วยในการรักษาสภาพของเซลล์ประสาทในส่วนของความจำ และจะได้ผลดีขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย

เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี
เมื่อร่างกายขาด วิตามินซี จะแสดงออกมาผ่านร่างกายของเรา ดังนี้
1. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้มีเลือดออกตามไรฟัน และมักจะมีอาการปวดบริเวณเหงือกบ่อย ๆ เพราะการขาดวิตามินซีทำให้สุขภาพเหงือกไม่แข็งแรง
2. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดกล้ามเนื้อ และมีอาการอ่อนแรง ทั้ง ๆ ที่ไม่ค่อยได้ยกของหนักบ่อย
3. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้ปากแห้งแตกเป็นขุย แม้ว่าจะเป็นช่วงหน้าฝน
4. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้แผลหายช้ากว่าปกติ เพราะไม่มีวิตามินซีไปกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซมและเสริมสร้างผนังเซลล์ของหลอดเลือดให้มีความแข็งแรง และช่วยต้านการอักเสบ
5. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้อ่อนเพลีย และรู้สึกเบื่ออาหาร อยากนอนอยู่ตลอดเวลา และจะรู้สึกไม่สดชื่นกระปรี้กระเปร่า
6. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้ผิวแห้งกร้าน คล้ำเสีย แม้จะบำรุงผิวอยู่เป็นประจำก็ตาม เนื่องจากร่างกายขาดคอลลาเจน (Collagen) จากวิตามินซีที่เป็นตัวช่วยสำคัญในการบำรุงผิว
7. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้เสี่ยงโรคหัวใจ โรคกระดูกและโรคหลอดเลือดสูง
8. เมื่อร่างกายขาดวิตามินซี ทำให้ภูมิต้านทานของร่างกายต่ำลง ทำให้เป็นหวัดง่าย มักจะเป็น ๆ หาย ๆ และยังเสี่ยงต่อการติดเชื้อแบคทีเรียและเชื้อไวรัสได้สูง

ปริมาณที่ควรได้รับ
โดยปกติแล้ว ปริมาณวิตามินซี ที่ควรได้รับในแต่ละวัน ดังนี้
– เด็กทารก 0-6 เดือน ควรได้รับวิตามินซีวันละ 40 มิลลิกรัม
– เด็กทารก 7-12 เดือน ควรได้รับวิตามินซีวันละ 50 มิลลิกรัม
– เด็กอายุ 1-3 ปี ควรได้รับวิตามินซีวันละ 15 มิลลิกรัม
– เด็กอายุ 4-8 ปี ควรได้รับวิตามินซีวันละ 25 มิลลิกรัม
– เด็กอายุ 9-13 ปี ควรได้รับวิตามินซีวันละ 45 มิลลิกรัม
– เด็กผู้ชาย อายุ 14-18 ปี ควรได้รับวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม
– เด็กผู้หญิง อายุ 14-18 ปี ควรได้รับวิตามินซีวันละ 65 มิลลิกรัม
– ผู้ชายที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินซีวันละ 90 มิลลิกรัม
– ผู้หญิงที่มีอายุ 19 ปีขึ้นไป ควรได้รับวิตามินซีวันละ 75 มิลลิกรัม
– สตรีมีครรภ์ และให้นมบุตร ควรได้รับวิตามินซีวันละ 80-120 มิลลิกรัม
แต่หากต้องการให้วิตามินช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับร่างกายของเรา ต้องรับประทานในแต่ละวัน ดังนี้
– ช่วยในเรื่องภูมิต้านทานร่างกายและบำรุงผิวพรรณ ควรทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
– ช่วยในเรื่องการป้องกันหวัด หรือผู้ที่เป็นภูมิแพ้บ่อย ๆ ควรทานวิตามินวันละ 2,000 มิลลิกรัมต่อวัน
**ควรปรึกษาแพทย์ก่อนรับประทานวิตามินซีในปริมาณที่สูง**
ทานวิตามินซีอย่างไร ให้ได้ ประโยชน์ของวิตามินซี สูงสุด
1. ทานพร้อมอาหารมื้อเช้าและมื้อเย็น วิตามินซีจะถูกขับออกจากร่างกายภายใน 2-3 ชั่วโมง ดังนั้น การรักษาระดับวิตามินซีในเลือดให้สูงเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพ
2. ทานเพื่อบรรเทาหวัด ควรทานวิตามินซี 1,000 มิลลิกรัม วันละ 2 เวลา ช่วยให้ระดับฮิสตามีน สารที่ทำให้น้ำตาน้ำมูกไหลลดลงได้
3. ผู้ที่เป็นเบาหวาน ควรรับประทานวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม เพราะวิตามินซีจะเข้าไปช่วยลดสารต้านอนุมูลอิสระและการอักเสบของหลอดเลือด และยังช่วยป้องกันอาการแทรกซ้อนต่าง ๆ เช่น โรคหัวใจ โรคไตวาย เป็นต้น
5. เพิ่มประสิทธิภาพวิตามินซี ด้วยการทานวิตามินซีร่วมกับแคลเซียม แมกนีเซียม และไบโอฟลาโวนอยด์
ผลข้างเคียง
1. วิตามินซีทำให้ระบบขับถ่ายดีขึ้น แต่หากรับประทานมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียแทนได้
2. วิตามินซีมีผลต่อการดูดซึมธาตุเหล็ก หากดูดซึมธาตุเหล็กมากไป อาจจะทำให้เกิดภาวะธาตุเหล็กมากเกินไปได้
3. การทานวิตามินซีในปริมาณสูง ๆ มากเกินไป ติดต่อกัน อาจทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่น ปัสสาวะบ่อย ไม่สบายท้อง ปวดมวน ท้องเสีย
4. วิตามินซีมีสมบัติเป็นกรด ส่วนที่มากเกินพอและถูกขับออกทางไต หากกินเป็นระยะเวลานานอาจทำให้ไตระคายเคืองได้
5. การทานวิตามินซีมากเกินไป อาจไปรบกวนการดูดซึมของทองแดงและซิลิเนียม อาจส่งผลให้มีอัตราเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้
แม้จะยังไม่มีงานวิจัยเกี่ยวกับอันตรายหรือผลข้างเคียงจากการรับวิตามินซีมากเกินไป หรือทานติดต่อกันเป็นเวลานาน แต่ก็ยังมีผลข้างเคียงต่อระบบย่อยอาหารและระบบทางเดินอาหารที่ทำให้เกิดอาการท้องเสีย แสบท้อง ไม่สบายท้อง และเสี่ยงต่อการเกิดนิ่วในไตได้นะคะเพื่อน ๆ อย่างไรก็ตาม หากเพื่อน ๆ ต้องการทานวิตามินซีให้ได้ประโยชน์กับร่างกาย และปลอดภัย ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกร เพื่อให้เราสามารถทานวิตามินซีได้อย่างสบายใจค่ะ
และขอแนะนำ กินกล้วยวันละผล แค่การกินกล้วยวันละผลทุกวัน ก็สามารถก่อให้เกิดสิ่งที่ดี ๆ มากมายให้คุณได้แล้วค่ะ และต้องบอกเลยว่า กล้วยมีประโยชน์ไม่น้อย และยังเป็นตัวช่วยที่ดี สำหรับใครที่ต้องการลดน้ำหนักอีกด้วยนะคะ